เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลการใช้งานของท่าน เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน หากท่านใช้งานเว็บไซต์ต่อ เราถือว่าท่านได้ยอมรับการใช้งานคุกกี้ และนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นโยบายการใช้คุกกี้
Bicycles, Road Bikes, Mountain Bikes, Bike Accessories, Bike parts, clothing
Review

ERE Research Genus II: รีวิวเจาะลึกแบบไม่เกรงใจใคร! หรือนี่คือสุดยอดวงล้อที่โลกต้องจารึก (เหรอ?)

author : SPORT FOR LIFE | 21 Jun 2025
View : 24
ERE Research Genus II: รีวิวเจาะลึกแบบไม่เกรงใจใคร! หรือนี่คือสุดยอดวงล้อที่โลกต้องจารึก (เหรอ?)

ERE Research Genus II: รีวิวเจาะลึกแบบไม่เกรงใจใคร! หรือนี่คือสุดยอดวงล้อที่โลกต้องจารึก (เหรอ?)

Sport For Life

ERE RESEARCH GENUS II
GENUS II SL30-R//GENUS II CL45-R//GENUS II AE65-R

01

ERE Research Genus II: รีวิวเจาะลึกแบบไม่เกรงใจใคร! หรือนี่คือสุดยอดวงล้อที่โลกต้องจารึก (เหรอ?)

ในจักรวาลแห่งการปั่นจักรยานที่หมุนไปข้างหน้าด้วยแรงผลักดันจากนวัตกรรม (และการตลาด) เราต่างถูกพายุแห่งเทคโนโลยีซัดกระหน่ำไม่เว้นแต่ละวัน ตั้งแต่เฟรมแอโรไดนามิกที่ลู่ลมจนแทบจะหายตัวได้ ไปจนถึงชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าที่เปลี่ยนเกียร์เร็วกว่าความคิด และแล้ววันนี้ก็มาถึงคิวของวงการล้อ เมื่อ ERE Research แบรนด์สัญชาติเนเธอร์แลนด์ที่มาพร้อมปรัชญา "Endless Innovations" ได้ส่ง Genus II ซีรีส์ล้อคาร์บอนล่าสุดที่อ้างว่า "คิดค้นมาเพื่อนักปั่นโดยเฉพาะ" มาเขย่าวงการและเงินในกระเป๋าของพวกเรา

ทีมงานของ Peloton จึงไม่รอช้า ที่จะทำการ "ผ่าพิสูจน์" วงล้อทั้งสามรุ่นเด่นในตระกูล Genus II ได้แก่ SL30-R เทพไต่เขา, CL45-R จอมออลราวด์ และ AE65-R อสูรทางเรียบ เพื่อค้นหาคำตอบว่าแท้จริงแล้ว...มันคือสุดยอดนวัตกรรมแห่งวงการ หรือเป็นแค่เพียงอีกหนึ่ง "ของมันต้องมี" ที่ถูกปั้นแต่งด้วยวาทศิลป์ทางการตลาด?

02

เปิดตำนาน Genus II: เมื่อวิศวกรรมศาสตร์และปรัชญา (การตลาด) บรรจบกัน

ก่อนจะลงลึกถึงแต่ละรุ่น เราต้องขอคารวะให้กับแนวคิดเบื้องหลังของ Genus II ที่ ERE Research ภูมิใจนำเสนอ พวกเขาไม่ได้แค่ผลิตล้อ แต่กำลัง "สร้างสรรค์ประสบการณ์" ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นซี่ลวดแบบ 2:1 ที่อ้างว่าช่วยเพิ่มความสมดุลและความสติฟฟ์ (แข็งแกร่ง) ดุม Panama SL ที่มาพร้อมระบบ Star Ratchet 36T ที่มอบการตอบสนองที่ฉับไว (และเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ให้เพื่อนร่วมก๊วนได้อิจฉา) และที่ขาดไม่ได้คือการใช้ซี่ลวด คาร์บอนแอโร ที่ไม่เพียงแต่เบาและแข็ง แต่ยังช่วยตัดอากาศได้ดีเยี่ยมราวกับดาบคาตานะนักรบซามูไร

ทั้งหมดนี้ถูกครอบทับด้วยการรับประกันตลอดชีพ (Lifetime Warranty) ซึ่งเป็นเหมือนยันต์กันผีชั้นดี ที่ทำให้นักปั่นรู้สึกอุ่นใจว่าต่อให้ปั่นตกหลุมบ่อขนาดเท่าดาวอังคาร ล้อคู่นี้ก็จะยังคงอยู่กับเราไปตลอดกาล (ภายใต้เงื่อนไขที่ดอกจันไว้ตัวเล็กๆ)

แต่พอแล้วกับเรื่องเทคนิคอันน่าปวดหัว เรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละรุ่นจะ "ปลดปล่อยปีศาจในตัวคุณ" ได้จริงหรือไม่

03

ERE Genus II SL30-R: เทพแห่งขุนเขา...

04

สเปคเด่น:

  • ความสูงขอบ: 30 มม.
  • น้ำหนัก (อ้างอิง): 1,188 กรัม
  • กลุ่มเป้าหมาย: นักไต่เขา, ผู้เสพติดความเบา, นักปั่นที่เชื่อว่าทุกกรัมมีผลต่ออันดับบน Strava

ล้อ SL30-R ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อบัญญัติข้อแรกของนักไต่เขา: "จงทำรถให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้" ด้วยน้ำหนักที่เฉียดๆ 1.1 กิโลกรัม มันเบาเสียจนคุณอาจเผลออุ้มจักรยานทั้งคันขึ้นเขาแทนที่จะปั่น ERE อ้างว่าความสูงขอบ 30 มม. และซี่ลวดคาร์บอน จะมอบการตอบสนองที่ฉับพลันทุกครั้งที่กระทืบบันได เปลี่ยนพลังงานทุกวัตต์ของคุณให้กลายเป็นแรงส่งขึ้นสู่ยอดเขาได้อย่างหมดจด

05

บทวิเคราะห์แบบเจาะลึก

ความเบาของ SL30-R นั้นเป็นของจริง มันให้ความรู้สึกราวกับว่าจักรยานของคุณเพิ่งไปทำลิฟติ้งมา อาการ "หน่วง" เวลาออกตัวแทบไม่มีอยู่จริง การกระชากขึ้นเนินสั้นๆ หรือการเร่งความเร็วออกจากโค้งทำได้อย่างน่าประทับใจ...เกินไป จนบางครั้งคุณอาจรู้สึกว่ามัน "ไว" จนเกินควบคุม ราวกับม้าป่าที่พร้อมจะดีดคุณลงข้างทางได้ทุกเมื่อ

อย่างไรก็ตาม บนทางราบที่ความเร็วสูง ความดีงามของมันเริ่มจางหายไป ขอบล้อที่สูงเพียง 30 มม. นั้นแอโรไดนามิกไม่พอ เมื่อความเร็วเริ่มแตะ 35 กม./ชม. คุณจะรู้สึกเหมือนกำลังต่อสู้กับกำแพงลมที่มองไม่เห็นในขณะที่เพื่อนของคุณที่ใช้ล้อขอบสูงกว่าฉีกหนีไปพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ

06

สรุป SL30-R: เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับวันที่คุณวางแผนจะพิชิตดอยอินทนนท์ หรือต้องการทำให้เพื่อนร่วมทีมตกใจด้วยการยกจักรยานโชว์ด้วยนิ้วก้อย แต่สำหรับวันธรรมดาที่คุณต้องปั่นสู้ลมกลับบ้าน...บางทีคุณอาจจะอยากได้อะไรที่ "แอโร" กว่านี้สักหน่อย

ERE Genus II CL45-R: จอมทัพออลราวด์

07

สเปคเด่น:

  • ความสูงขอบ: 45 มม.
  • น้ำหนัก (อ้างอิง): 1,339 กรัม
  • กลุ่มเป้าหมาย: นักปั่นที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะรักเขาหรือรักทางเรียบ, ผู้ที่เชื่อในคำว่า "ล้อเดียวจบ", นักปั่นที่อยากได้แอโรแต่ก็ยังกลัวลมข้าง

ล้อ CL45-R คือคำตอบของ ERE สำหรับคำถามที่ว่า "ถ้าเลือกมีล้อได้แค่คู่เดียว ควรเป็นล้อแบบไหน?" มันคือสุนทรียศาสตร์แห่งความสมดุล คือจุดกึ่งกลางที่สมบูรณ์แบบระหว่างความเบาของสายไต่เขาและความแอโรของสายทางเรียบ มันไม่ได้ตะโกนว่าตัวเองเก่งที่สุดในด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะกระซิบข้างหูคุณอย่างมั่นใจว่า "ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ฉันเอาอยู่"

08

บทวิเคราะห์แบบเจาะลึก

ความรู้สึกแรกที่ได้รับจาก CL45-R คือ "ความนิ่งและไว้ใจได้" มันอาจไม่ได้พุ่งทะยานเหมือนจรวดแบบรุ่นน้อง SL30-R แต่ก็ไมได้อุ้ยอ้ายเมื่อต้องขึ้นเนินชันเหมือนรุ่นพี่ AE65-R บนทางขึ้นเขา มันมอบความ "พอดี" ที่ช่วยให้คุณควงขาไปได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกว่ากำลังลากของหนัก แต่เมื่อลงจากเขามาเจอทางเรียบ ขอบสูง 45 มม. ก็เริ่มทำงานของมันทันที

ที่ความเร็ว 35−40 กม./ชม. คุณจะรู้สึกถึงประสิทธิภาพแอโรไดนามิกส์ที่ช่วยรักษาความเร็วได้ดีกว่าล้อขอบตื้นอย่างเห็นได้ชัด จุดเด่นที่สุดของมันคือการรับมือกับลมปะทะข้าง (Crosswind) ซึ่งทำได้อย่างน่าทึ่ง มันนิ่งและคาดเดาได้ง่าย ไม่มีอาการ "วูบ" หรือ "สะบัด" ให้ตกใจเล่น ทำให้คุณกล้าที่จะหมอบต่ำและเติมความเร็วได้อย่างมั่นใจ

อย่างไรก็ตาม ความเป็น "เป็ด" ของมันก็คือจุดอ่อนเช่นกัน ในวันที่ต้องดวลกันบนทางชันล้วนๆ มันก็จะถูก SL30-R ทิ้งห่างไปอยู่ดี และในศึกทางเรียบที่วัดกันด้วยความเร็วปลาย มันก็ไม่อาจเทียบรัศมีของ AE65-R ได้ มันคือล้อสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการความเป็นที่สุด แต่ต้องการประสิทธิภาพที่ "ดีมาก" ในทุกสถานการณ์

ERE Genus II CL45-R Team Edition
ERE Genus II CL45-R Team Edition

สรุป

CL45-R คือเพื่อนตายที่คุณพึ่งพาได้ในทุกทริป เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานแข่ง Audax หรือ Gran Fondo ที่มีสภาพเส้นทางหลากหลาย หรือสำหรับนักปั่นที่ต้องการอัปเกรดล้อติดรถให้เป็นล้อคาร์บอนคุณภาพสูงที่ใช้งานได้ดีในทุกๆ วัน มันคือการลงทุนที่ชาญฉลาดและปลอดภัยที่สุดในตระกูล Genus II

ERE Genus II AE65-R: อสูรทางเรียบ

10

สเปคเด่น:

  • ความสูงขอบ: 65 มม.
  • น้ำหนัก (อ้างอิง): 1,538 กรัม
  • กลุ่มเป้าหมาย: นักแข่งทางเรียบผู้กระหายความเร็ว, มนุษย์วัตต์ผู้มองแรงต้านอากาศเป็นศัตรูคู่อาฆาต, นักไตรกีฬา, คนที่พร้อมจะยอมหนักขึ้นอีกนิดเพื่อความเร็วปลายที่ไม่สิ้นสุด

ล้อ AE65-R ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการประนีประนอม มันถือกำเนิดมาเพื่อภารกิจเดียว นั่นคือ "การสังหารแรงต้านอากาศ" ด้วยขอบล้อที่สูงตระหง่านถึง 65 มม. มันคืออาวุธที่ออกแบบมาสำหรับนักปั่นที่รู้ว่าสมรภูมิของตนคือทางเรียบยาวๆ และชัยชนะวัดกันที่เสี้ยววินาทีซึ่งได้มาจากหลักอากาศพลศาสตร์ ที่หน้าเส้นชัย

11

บทวิเคราะห์แบบเจาะลึก

อย่าได้คิดจะเอา AE65-R ไปไต่เขาชันๆ ถ้าคุณไม่ได้มีต้นขาขนาดนักปั่นระดับโปร เพราะคุณจะรู้สึกเหมือนมีสมอเรือเล็กๆ ถ่วงอยู่ที่ล้อหลังตลอดเวลา ความหนักของมันจะปรากฏชัดเจนเมื่อความเร็วต่ำกว่า 25 กม./ชม. แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพามันเข้าสู่สนามรบที่แท้จริง...ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป

บนทางเรียบที่ความเร็วเกิน 40 กม./ชม. AE65-R จะปลดปล่อยร่างที่แท้จริงออกมา มันจะเปลี่ยนจากอสูรที่อุ้ยอ้ายกลายเป็นรถไฟความเร็วสูง คุณจะรู้สึกว่าล้อ "ดูด" ความเร็วไปข้างหน้าด้วยตัวเอง เสียงลมที่แหวกผ่านขอบล้อสูงคือซาวด์แทร็กแห่งชัยชนะ การรักษาความเร็วสูงทำได้ง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ ประหยัดวัตต์ของคุณไปได้มหาศาล แต่ความเทพนี้ต้องแลกมากับบางสิ่ง...

ในวันที่ลมแรง คุณต้องมีสมาธิและทักษะการควบคุมรถที่ดี เพราะขอบที่สูงขนาดนี้ไวต่อลมปะทะข้างมาก มันอาจเกิดอาการ "แฉลบ" ได้หากเจอลมกระโชกแรงๆ เหมาะสำหรับนักปั่นที่มีน้ำหนักตัวพอสมควรและมีประสบการณ์ในการคุมรถที่ใช้ล้อขอบสูง

12

สรุป

AE65-R คืออาวุธเฉพาะทางขั้นสุดยอด เหมาะสำหรับนักแข่งที่เน้นทำความเร็วในสนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต(Happy and Healthy bike lane), การแข่ง Criterium, การแข่งจักรยานถนนใน stage ทางเรียบที่ต้องการสปริ้นหน้าเสน้นชัย หรือการปั่น Time Trial หากคุณคือคนที่ต้องการความได้เปรียบทางแอโรไดนามิกส์สูงสุดและยอมแลกกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและข้อจำกัดในการไต่เขา...นี่คือล้อที่สร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

การใช้จริงในสนามแข่ง

บทพิสูจน์ในสนามแข่งจริง: ERE Genus II AE65-R อาวุธลับของทีม Lenso.cc ในสมรภูมิประเทศไทย

ในโลกของการแข่งขันจักรยานเสือหมอบ สเปคบนแผ่นกระดาษและผลลัพธ์ในอุโมงค์ลมเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่บทพิสูจน์ที่แท้จริงของอุปกรณ์ทุกชิ้นเกิดขึ้นบนพื้นถนนจริง ท่ามกลางความร้อน, สายลม, และแรงกดดันของการแข่งขัน ที่ซึ่งทุกวัตต์และทุกวินาทีมีความหมาย วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกการใช้งานล้อแอโรไดนามิกส์ตัวท็อปอย่าง ERE Genus II AE65-R ผ่านมุมมองและประสบการณ์จริงจาก ทีม Lenso.cc หนึ่งในทีมจักรยานชั้นนำของประเทศไทย เพื่อค้นหาว่า "อสูรทางเรียบ" คู่นี้มีประสิทธิภาพเพียงใดในสนามแข่งเมืองไทย

13

สมรภูมิประเทศไทย: ทำไมต้องเป็น AE65-R?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจธรรมชาติของสนามแข่งในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นทางเรียบยาว, โรลลิ่งฮิลล์ (เนินซึม), และการแข่งขันแบบเซอร์กิต (Criterium) ที่ใช้ความเร็วสูงคงที่เป็นหลัก ชัยชนะมักจะถูกตัดสินกันด้วยการสปรินต์หน้าเส้น หรือการ breakaway (ตั้งกลุ่มหนี) ที่ต้องรักษาความเร็วให้คงที่และสม่ำเสมอ

ในสถานการณ์เช่นนี้ "แอโรไดนามิกส์" คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่สร้างความได้เปรียบ ทีม Lenso.cc ซึ่งประกอบด้วยนักปั่นที่มีประสบการณ์สูง เข้าใจดีว่าการเลือกล้อขอบสูง 65 มิลลิเมตรอย่าง AE65-R ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็น "การตัดสินใจทางยุทธศาสตร์" เพื่อลดแรงต้านอากาศให้ได้มากที่สุด ซึ่งหมายถึงการประหยัดพลังงาน (วัตต์) ตลอดการแข่งขัน และมีแรงเหลือมากพอสำหรับจังหวะตัดสิน

Cr.TCA
Cr.TCA

ผู้จัดการทีมและนักปั่นตัวหลักของ Lenso.cc สรุปอย่างชัดเจนว่า ERE Genus II AE65-R คือ "อาวุธเฉพาะทาง" ที่ตอบโจทย์การแข่งขันในประเทศไทยได้อย่างยอดเยี่ยม

15

16   "สำหรับสนามแข่งในไทยที่ 80% ตัดสินกันด้วยความเร็วสูง AE65-R คือความได้เปรียบที่เรามองข้ามไม่ได้เลย มันอาจจะไม่ใช่ล้อสำหรับวันที่ต้องไปแข่ง 'พิชิตดอยอินทนนท์' แต่สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย, รายการเซอร์กิตต่างๆ หรือสเตจทางเรียบในสนามประเทศไทย มันคือตัวเลือกแรกของเราเสมอ เพราะเรารู้ว่ามันจะช่วยประหยัดแรงและส่งเราถึงหน้าเส้นได้เร็วกว่า"

 

บทพิสูจน์จากทีม Lenso.cc ได้ยืนยันแล้วว่า ERE Genus II AE65-R ไม่ใช่แค่ล้อที่ดูเร็ว แต่เป็นล้อที่ "เร็วจริง" ในสมรภูมิที่ต้องการมันมากที่สุด การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสภาพสนามคือหัวใจของชัยชนะ และสำหรับสนามรบทางเรียบความเร็วสูงของประเทศไทย ดูเหมือนว่าทีม Lenso.cc ได้เลือกอาวุธของพวกเขาไว้อย่างชาญฉลาดแล้ว

17

สอบถามรายละเอียดและเป็นเจ้าของได้ที่
ตัวแทนจำหน่ายบริษัท เปโลตอง จำกัด
ทั่วประเทศใกล้บ้านคุณ คลิก https://www.peloton.co.th/dealer

18

เเท็กที่เกี่ยวข้อง