เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลการใช้งานของท่าน เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน หากท่านใช้งานเว็บไซต์ต่อ เราถือว่าท่านได้ยอมรับการใช้งานคุกกี้ และนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นโยบายการใช้คุกกี้
Bicycles, Road Bikes, Mountain Bikes, Bike Accessories, Bike parts, clothing
Review

รีวิว Garmin Edge 550 | Edge 850 เครื่องคอมพิวเตอร์จักรยานรุ่นใหม่ที่ใครก็อยากได้

author : วภัทร | 18 Dec 2025
View : 67
รีวิว Garmin Edge 550 | Edge 850 เครื่องคอมพิวเตอร์จักรยานรุ่นใหม่ที่ใครก็อยากได้

รีวิว Garmin Edge 550 | Edge 850 เครื่องคอมพิวเตอร์จักรยานรุ่นใหม่ที่ใครก็อยากได้

Sport For Life

รีวิว Garmin Edge 550 | Edge 850 เครื่องคอมพิวเตอร์จักรยานรุ่นใหม่ที่ใครก็อยากได้

4

เปลี่ยนการปั่นจักรยานของคุณไปอีกขั้น

หลังจากที่ใช้ทั้ง Garmin Edge 550 และ Edge 850 มาหลายเดือน ปั่นไปทั้งถนนราบ ขึ้นเขา ลงดิน และทุกสภาพอากาศ วันนี้เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงจากการใช้งานจริงให้เพื่อนๆ นักปั่นได้ฟัง ว่าทั้งสองรุ่นนี้แตกต่างกันยังไง คุ้มค่าไหม และเหมาะกับใครบ้าง

ทั้ง Edge 550 และ 850 เป็นเวอร์ชันขนาดกะทัดรัดที่นำเทคโนโลยีจากรุ่นท็อป Edge 1050 มาใส่ในตัวที่เล็กกว่า เบากว่า และราคาถูกกว่า แต่ก็ยังได้ฟีเจอร์เทพๆ มาเกือบครบ

ความประทับใจแรกพบ - หน้าจอสว่างจริงๆ

สิ่งแรกที่สังเกตได้เลยคือ หน้าจอสว่างมาก ขนาด 2.7 นิ้ว ความละเอียด 420 x 600 พิกเซล Garmin เปลี่ยนจากหน้าจอแบบ transflective มาเป็น transmissive LCD ทำให้สีสันสดใส อ่านแผนที่ชัดเจนแม้แดดจัด แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนคือแบตเตอรี่ลดลงจาก 25-30 ชั่วโมงของรุ่น 540/840 เหลือแค่ 12 ชั่วโมง (หรือ 36 ชั่วโมงในโหมดประหยัดแบต)

5

สำหรับผมที่ปั่นวันละ 2-3 ชั่วโมง ถือว่าโอเคครับ แต่ถ้าใครปั่นไกลหลายวันหรือทำ endurance race อาจต้องพกแบตสำรองหรือชาร์จระหว่างทาง

ความแตกต่างหลัก - ปุ่มกด vs. ทัชสครีน

นี่คือจุดที่ต้องตัดสินใจกันจริงๆ ว่าจะเลือกรุ่นไหน

Garmin Edge 550 (ราคา 15,890 บาท พร้อมฟิล์มกันรอย)

198

  • ปุ่มกดเท่านั้น ไม่มีทัชสครีน
  • เหมาะกับคนที่ชอบควบคุมแบบดั้งเดิม
  • ใช้ได้ดีตอนใส่ถุงมือ ไม่กดพลาดตอนเส้นทางขรุขระ
  • ทนฝนได้ดี

Garmin Edge 850 (ราคา 18,990 บาท)

547411431_1533867450906108_9031846634510452138_n

  • ทัชสครีน + ปุ่มกด ครบครัน
  • ซูมแผนที่ได้ง่าย ปัดเปลี่ยนหน้าจอได้สะดวก
  • ลำโพงในตัว พูดบอกเส้นทาง มีเสียงกริ่งจักรยานดิจิทัล
  • Garmin Pay จ่ายเงินแบบไร้สัมผัส
  • สร้างเส้นทางบนเครื่องได้ ไม่ต้องใช้แอปฯ

ประสบการณ์ใช้งานจริง

การนำทาง - ชัดเจนและแม่นยำ

แผนที่ที่โหลดมาให้ครอบคลุมทั้งถนน ลูกรัง และเส้นทางเสือภูเขา ระบบนำทางแม่นยำมาก บอกล่วงหน้าก่อนเลี้ยว และยังมีการเตือนว่าเส้นทางข้างหน้าเป็นถนนลูรังหรือไม่ สำหรับผมที่ชอบปั่นไปตามที่แปลกใหม่ ฟีเจอร์นี้ช่วยมาก

3

ที่ชอบมากคือ อัปเดตสภาพอากาศแบบ real-time เห็นทิศทางลม เห็นเรดาร์ฝน วางแผนได้ว่าควรหลบไปทางไหน

ฟีเจอร์เทรนนิ่ง - เหมือนมีโค้ชส่วนตัว

EDGE_540

Garmin Cycling Coach ให้แผนการฝึกที่ปรับตามความสามารถของเรา ความต้องการของเส้นทาง และการฟื้นตัวของร่างกาย (ต้องใช้คู่กับ power meter และเซ็นเซอร์ชีพจร)

Smart Fueling Alerts คือเทพมากครับ บอกว่าควรกินคาร์โบกี่กรัม ดื่มน้ำกี่มิลลิลิตร โดยคำนวณจากความฟิต ความยากของเส้นทาง อุณหภูมิ และความชื้น ไม่ต้องเดาเอาเองอีกต่อไป

Power Guide ช่วยวางแผนการใช้กำลัง บอกว่าควรออกแรงเท่าไหร่ในแต่ละช่วง เหมาะสำหรับการแข่งหรือปั่นทางไกล รุ่นใหม่นี้คำนึงถึงระดับความสูงด้วย ถ้าไม่ชินกับพื้นที่สูงจะไม่บังคับให้ออกแรงหนักจนเกินไป

ความปลอดภัย - อุ่นใจทั้งตัวเอง และคนที่บ้าน

  • Incident Detection: ถ้าเกิดอุบัติเหตุ จะส่งข้อความพร้อมตำแหน่งไปหาผู้ติดต่อฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • LiveTrack: ครอบครัวเพื่อนๆ ติดตามได้แบบ real-time
  • Road Hazard Alerts: เตือนอันตรายที่นักปั่นคนอื่นรายงาน และเราก็แชร์กลับได้
  • รองรับ Varia Radar: จับรถที่เข้ามาจากข้างหลัง

Edge 850 มีกริ่งดิจิทัลเสียงดังชัด ใช้เตือนคนเดินและนักปั่นคนอื่นได้สะดวกกว่าการตะโกน

6

GPS ที่แม่นยำขึ้น

ทั้งสองรุ่นอัปเกรดเป็น 5 Hz GPS recording บันทึกตำแหน่งถี่ขึ้น 5 เท่า ทำให้เส้นทางที่บันทึกได้แม่นยำกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะตอนลงดินดินที่เลี้ยวหักศอกบ่อยๆ

ตารางเปรียบเทียบแบบละเอียด

คุณสมบัติ Edge 550 Edge 850
ราคา 15,890 บาท (พร้อมฟิล์ม) 18,990 บาท
หน้าจอ 2.7" LCD สี 2.7" LCD สี พร้อมทัชสครีน
ความละเอียด 420 x 600 พิกเซล 420 x 600 พิกเซล
การควบคุม ปุ่มกดเท่านั้น ทัชสครีน + ปุ่มกด
น้ำหนัก 110 กรัม 113 กรัม
ขนาด 54.6 x 92.2 x 16.8 มม. 54.6 x 92.2 x 16.8 มม.
แบตเตอรี่ 12 ชม. (36 ชม. โหมดประหยัด) 12 ชม. (36 ชม. โหมดประหยัด)
กันน้ำ IPX7 IPX7
หน่วยความจำ 32 GB 64 GB
ลำโพงในตัว ✗ (เสียงบี๊ปเท่านั้น) ✓ (พูด + กริ่งดิจิทัล)
Garmin Pay
สร้างเส้นทางบนเครื่อง
GPS/GNSS 5 Hz 5 Hz
แผนที่ โหลดมาให้ โหลดมาให้
Garmin Cycling Coach
Smart Fueling Alerts
Power Guide
อัปเดตสภาพอากาศ
GroupRide
Timing Gates
Incident Detection
LiveTrack
Road Hazard Alerts
รองรับ Varia

ข้อดีข้อเสีย

Edge 550

ข้อดี:

  • ราคาถูกกว่า 3,000 บาท
  • ปุ่มกดทำงานได้ดีในทุกสภาพ
  • เบากว่ารุ่นที่มีทัชสครีน (นิดหน่อย)
  • ได้ฟีเจอร์เทรนนิ่งหลักครบ

ข้อเสีย:

  • ไม่มีทัชสครีน (การใช้งานบางอย่างช้ากว่า)
  • ไม่มีเสียงพูดนำทาง
  • ไม่มี Garmin Pay
  • ต้องใช้แอปฯ ในการสร้างเส้นทาง

Edge 850

ข้อดี:

  • ทัชสครีนตอบสนองไวมาก
  • เสียงพูดนำทางชัดเจน
  • กริ่งดิจิทัลมีประโยชน์จริง
  • Garmin Pay สะดวกมาก
  • สร้างเส้นทางได้ทันที
  • หน่วยความจำ 64 GB

ข้อเสีย:

  • ราคาสูงกว่า 3,000 บาท
  • ทัชสครีนอาจกดผิดตอนขรุขระ (แต่มีปุ่มสำรอง)

ข้อจำกัดที่ควรรู้

แบตเตอรี่ 

หน้าจอสว่างสวยแลกมาด้วยแบตเตอรี่ลดลงครึ่งหนึ่ง จาก 25-30 ชั่วโมง (รุ่น 540/840) เหลือเพียง 12 ชั่วโมง สำหรับผมที่ปั่นวันละไม่กี่ชั่วโมงไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าปั่นไกลๆ ต้องชาร์จบ่อยขึ้นแน่นอน

ไม่มีรุ่น Solar

ไม่มีตัวเลือกชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์เหมือนรุ่นเก่า ถ้าต้องการปั่นหลายวันโดยไม่ชาร์จ อาจต้องพิจารณารุ่นอื่น

ควรเลือกรุ่นไหนดี?

เลือก Edge 550 ถ้า:

  • ต้องการประหยัดงบ 3,000 บาท
  • ชอบใช้ปุ่มกดแบบดั้งเดิม
  • ปั่นในสภาพอากาศเลวร้ายบ่อยๆ (ฝนตก โคลนเยอะ)
  • ปั่นใส่ถุงมือเป็นประจำ
  • ไม่จำเป็นต้องมี Garmin Pay

เลือก Edge 850 ถ้า:

  • งบเพิ่มได้อีก 3,000 บาท
  • ชอบความสะดวกของทัชสครีน
  • อยากได้เสียงพูดนำทาง
  • ใช้ Garmin Pay บ่อย
  • สร้างเส้นทางระหว่างปั่น
  • ต้องการประสบการณ์ที่ทันสมัยที่สุด
    EDGE_840

เทียบกับ Garmin Edge 540 / 840 (รุ่นเก่า)

  • แบตเตอรี่ยาวกว่า 2 เท่า
  • หน้าจอมืดกว่า
  • ขาดฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง
  • ราคาถูกลงเรื่อยๆ (เป็นทางเลือกที่ดีถ้างบจำกัด)

สรุป: คุ้มค่าหรือไม่?

หลังจากใช้งานมาหลายเดือน ผมว่า Edge 850 คุ้มค่ากว่า สำหรับคนส่วนใหญ่ ส่วนต่าง 3,000 บาทให้คุณได้ทัชสครีน ลำโพง กริ่ง และ Garmin Pay ซึ่งทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมากๆ

แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบแบบดั้งเดิม ปั่นในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย หรืออยากประหยัดงบ Edge 550 ก็ให้ฟีเจอร์หลักๆ ครบถ้วน ทั้งการเทรน การนำทาง และความปลอดภัย

ข้อจำกัดเรื่องแบตเตอรี่อาจทำให้บางคนลังเล แต่สำหรับผมที่ปั่นวันละไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง ก็ยังรับได้ ส่วนใครที่ปั่นไกลบ่อยๆ ก็ต้องปรับตัวพกแบตสำรองหรือเปลี่ยนนิสัยชาร์จบ่อยขึ้น

1

คะแนนความพึงพอใจ:

ถ้ามีงบและอยากได้เครื่องที่ทันสมัยที่สุด แนะนำ Edge 850 เลยครับ แต่ถ้างบจำกัดหรือชอบแบบดั้งเดิม Edge 550 ก็ไม่ผิดหวังแน่นอน!

สนใจสอบถามและเป็นเจ้าของสินค้าจาก Prologo ได้ที่ ตัวแทนจำหน่ายเปโลตอง จำกัด

https://www.peloton.co.th/dealer

เเท็กที่เกี่ยวข้อง