เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลการใช้งานของท่าน เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน หากท่านใช้งานเว็บไซต์ต่อ เราถือว่าท่านได้ยอมรับการใช้งานคุกกี้ และนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นโยบายการใช้คุกกี้
Bicycles, Road Bikes, Mountain Bikes, Bike Accessories, Bike parts, clothing
News

Evolution of the Canyon Ultimate

author : พัณนิดา | 28 Apr 2025
View : 45
Evolution of the Canyon Ultimate

Evolution of the Canyon Ultimate

Sport For Life

เกือบสองทศวรรษแห่งวิวัฒนาการและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศได้เดินทางมาถึงบทใหม่แล้ว กับการเปิดตัว Canyon Ultimateเจนเนอเรชั่นที่ 5 จักรยานเสือหมอบอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรก
ในงาน Eurobike ในปี 2004 ได้สร้างชื่อเสียงและยืนหยัดเป็นผู้นำในโลกจักรยานยนต์บนท้องถนนอย่างสง่างาม

Canyon Ultimateไม่ได้เป็นเพียงจักรยาน แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งสมรรถนะที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จากบทพิสูจน์ผ่านการทดสอบอันเข้มข้นของสื่อจักรยานยนต์ชั้นนำ สู่ชัยชนะในรายการแข่งขันระดับโลก
ทั้งแชมป์โลก แกรนด์ทัวร์ และอีกหลากหลายโมเมนต์สำคัญ Ultimate
 ได้กลายเป็นจักรยานที่โดดเด่นและเป็นที่ต้องการของนักปั่นทั่วโลก

"Ultimateเป็นมากกว่าจักรยาน มันคือ จิตวิญญาณของ Canyon" Lukas Birr หัวหน้าวิศวกรสำหรับ Ultimate เจนเนอเรชั่นที่ 5 กล่าว "เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์จักรยานที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ไม่ว่านักปั่นคนนั้นจะเป็นนักกีฬาระดับ
World Tour หรือเพียงแค่ออกไปปั่นบนถนนใกล้บ้าน และ Ultimate คือจักรยานคันเดียวที่คุณจะพบว่าตัวเองอยากเป็นเจ้าของ"

เรามาย้อนเวลากลับไปดูจุดเริ่มต้นของ Ultimate กันว่าจากจุดเริ่มต้นมาถึงปัจจุบัน Ultimate ได้สร้างตำนานอะไรไว้บ้าง...

 

Canyon Ultimate เจนเนอเรชั่นแรก : จุดเริ่มต้นแห่งตำนานคาร์บอน

ย้อนกลับไปในปี 2004 เมื่อ Canyon Ultimate(ซึ่งในขณะนั้นใช้ชื่อว่า Canyon Carbon Ultimate) ได้เปิดตัวสู่สายตานักปั่น จักรยานคันนี้ได้ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของงานวิศวกรรมจักรยาน ด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาจักรยานที่ทั้งแข็งแกร่งและมีน้ำหนักเบาที่สุด ทีมวิจัยและพัฒนาของ Canyonจึงได้เริ่มต้นสร้างสรรค์สิ่งนี้ขึ้นใน Ultimateเจนเนอเรชั่นแรก

ในฐานะผู้ผลิต Canyonได้เริ่มท้าทายขนบธรรมเนียมเดิมๆ ของจักรยานเสือหมอบ ที่เคยถูกมองว่าเป็นสิ่งที่เทอะทะ หนัก และไม่คล่องตัว เทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ในยุคนั้นเพิ่งจะเริ่มต้น แต่ได้กลายเป็นมาตรฐานสำคัญสำหรับจักรยานเสือหมอบทุกคันในปัจจุบัน

ความสำเร็จครั้งสำคัญของ Canyon Ultimateเจนเนอเรชั่นแรกเกิดขึ้นในปี 2007 เมื่อ Baden Cooke นักปั่นอาชีพชาวออสเตรเลีย นำจักรยานคันนี้คว้าชัยชนะในการแข่งขัน Tour Down Under ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับทีมแข่งเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศศักดาของ Canyonในวงการจักรยานระดับโลก

ชัยชนะครั้งนั้นเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของ Canyonว่า Ultimate สามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันได้ เช่นเดียวกับที่นักปั่นเองก็รับรู้ถึงศักยภาพของจักรยานคันนี้ และในฤดูกาลแรกที่ได้โลดแล่นในระดับสูงสุด Canyonก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าวิสัยทัศน์ของพวกเขานั้นถูกต้อง

evolution-ultimate-first-gen1st Generation Ultimate

 

Ultimate เจนเนอเรชั่นที่ 2 : ยุคทองแห่งชัยชนะและนวัตกรรม

จากความสำเร็จอันงดงามของUltimateเจนเนอเรชั่นแรก Canyonได้ก้าวสู่เวทีโลกอย่างเต็มภาคภูมิ ทีมแข่ง นักปั่น และแฟนๆ ทั่วโลกต่างจับจ้องมาที่Canyon ทำให้เกิดความท้าทายครั้งใหม่ในการสานต่อตำนานด้วย Ultimateเจนเนอเรชั่นที่สอง ซึ่งเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในงาน Eurobike ปี 2007

แม้ค่า STW (Stiffness-to-Weight) จะยังคงเป็นจุดเด่นที่สำคัญ แต่เบื้องหลังนั้น Ultimateเจนเนอเรชั่นที่สองได้ซ่อนนวัตกรรมที่น่าทึ่งไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือ ท่ออานแบบอสมมาตรที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเฟรมอย่างชาญฉลาด ควบคู่ไปกับการรองรับหลักอานขนาด 27.2 มม. ที่มอบความสบายในการปั่นที่เหนือกว่า นอกจากนี้ Canyonยังได้นำเสนอ Canyon Engineered Parts (CEP)ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาภายในองค์กรของ Canyon เอง โดยเริ่มต้นจากตะเกียบหน้า และต่อมาได้ขยายไปยังหลักอาน

หัวใจสำคัญของCanyonคือวิศวกรรมและการออกแบบอันเป็นเลิศ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราทุ่มเทให้กับการปรับปรุงและขัดเกลาทุกรายละเอียดของส่วนประกอบ CEP อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าจักรยานรุ่นใหม่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของรุ่นก่อนหน้าไปอีกขั้น

evolution-ultimate-second-gen2nd Generation Ultimate

 

บทพิสูจน์แห่งชัยชนะบนถนนและในสนามแข่ง

Ultimate เจนเนอเรชั่นที่สองได้สร้างชื่อเสียงและจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับ Canyon อย่างสง่างาม ในปี 2009 นักปั่นชาวออสเตรเลีย Cadel Evans ได้สร้างความประทับใจไปทั่วโลกด้วยการคว้าชัยชนะเดี่ยวในรายการ World Championships ที่เมือง Mendrisio ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ Canyon Ultimate กลายเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์จักรยานโลกอย่างแท้จริง

ไม่เพียงเท่านั้น Ultimate เจนเนอเรชั่นที่สองยังได้สัมผัสรสชาติแห่งความสำเร็จในรายการ Monument เป็นครั้งแรก เมื่อ Philippe Gilbert ชูมือฉลองชัยเข้าเส้นชัยในการแข่งขัน Giro di Lombardia ครั้งที่ 103 ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพในการคว้าชัยชนะในรายการระดับสูงสุด

แต่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ บนเวทีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกจักรยาน นั่นคือ Tour de France ในปี 2011 นักปั่นอาชีพชาวเยอรมัน Andre Greipel ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการคว้าชัยชนะในการสปรินต์ครั้งแรกให้กับ Ultimate เหนือ Mark Cavendish ในเมือง Carmaux ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Ultimate ไม่ได้เป็นเพียงจักรยานสำหรับนักไต่เขาเท่านั้น แต่ยังเป็นอาวุธร้ายสำหรับสปรินเตอร์อีกด้วย และนั่นทำให้เรามั่นใจว่าเราได้สร้างสรรค์จักรยานแข่งที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ที่ทำให้นักปั่นทุกประเภทสามารถคว้าชัยชนะได้

 

 

Ultimate เจนเนอเรชั่นที่ 3: เมื่อสุนทรียภาพผสานพลังแห่งอากาศพลศาสตร์

Ultimate เจนเนอเรชั่นที่ 3 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ตอกย้ำชื่อเสียงของ Canyon ในฐานะผู้ผลิตจักรยานแข่งสมรรถนะสูงระดับแนวหน้า ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างสรรค์จักรยานที่ไม่เพียงแต่เร็ว แต่ยังงดงามเหนือกาลเวลา Canyon จึงได้ปรับปรุงรูปลักษณ์ของ Ultimate ให้มีความทันสมัยและเฉียบคมยิ่งขึ้น ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบของ Canyon อย่างชัดเจน

ในเจนเนอเรชั่นนี้ Canyon ได้นำเสนออีกหนึ่งนวัตกรรมที่พลิกโฉมวงการ นั่นคือ การเดินสายเคเบิลภายในท่อล่าง เป็นครั้งแรก ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้การไหลเวียนของอากาศบริเวณด้านหน้าของจักรยานมีความราบรื่นขึ้น ส่งผลให้หลักอากาศพลศาสตร์ของจักรยานดียิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังทำให้รูปลักษณ์โดยรวมของจักรยานดูสะอาดตาและปราดเปรียวยิ่งขึ้นอีกด้วย

นอกจากความใส่ใจในด้านอากาศพลศาสตร์แล้ว ทีมวิศวกรของ Canyon ยังได้ทำการปรับปรุงในส่วนอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของจักรยานอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนดรอปเอาท์จากอะลูมิเนียมเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อลดน้ำหนักและเพิ่มความแข็งแรง หรือการออกแบบตะเกียบหลังให้มีขนาดกว้างขึ้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับด้านหลังของจักรยาน ทำให้จักรยานตอบสนองต่อแรงของผู้ขี่ได้อย่างฉับไวและมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ที่ได้ คือ จักรยานที่ผสานผสานความสวยงามเข้ากับสมรรถนะอันยอดเยี่ยมได้อย่างลงตัว และไม่มีตัวอย่างใดที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพนี้ได้ดีไปกว่าชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของ Nairo Quintana (ทีม Movistar) ในการแข่งขัน Giro d’Italia ปี 2014 ซึ่งนับเป็นชัยชนะครั้งแรกของ Ultimate ในการแข่งขัน Grand Tour อันทรงเกียรติ และเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความสำเร็จอีกมากมายที่จะตามมา

evolution-ultimate-third-gen

3rd Generation Ultimate

 

Ultimate เจนเนอเรชั่นที่ 4: ก้าวกระโดดแห่งนวัตกรรม สู่ชัยชนะเหนือทุกความคาดหมาย

จากรากฐานอันแข็งแกร่งและความสำเร็จอันน่าประทับใจของ Ultimate ทั้งสามรุ่นก่อนหน้า Canyon ตระหนักดีถึงความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ในการพัฒนาเจนเนอเรชั่นที่สี่ และเมื่อจักรยานคันนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในการแข่งขัน Tour de France ปี 2015 ความคาดหวังจากทั่วโลกก็พุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุด

เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการลงทุนอย่างไม่หยุดยั้งในแผนกวิจัยและพัฒนา (R&D) และวิศวกรรมของ Canyon เชื่อมั่นว่าการก้าวสู่จุดสูงสุดนั้นจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกับผู้ที่มีความสามารถมากที่สุดในวงการ เราได้เสริมทัพทีมงานด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก และคัดสรรเฉพาะวัสดุที่ดีที่สุดเท่านั้น เพื่อสร้างสรรค์จักรยานที่เหนือกว่าทุกความคาดหมาย

หัวใจสำคัญของการพัฒนา Ultimate เจนเนอเรชั่นที่สี่คือการให้ความสำคัญกับ หลักอากาศพลศาสตร์ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ความท้าทายในขณะนั้นคือการสร้างสมดุลที่ลงตัวระหว่างประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ ความแข็งแกร่ง และน้ำหนักเบา ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายความสามารถของทีมวิศวกรของเราอย่างแท้จริง

ท่อล่างที่กว้างและแบนอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นที่สามได้ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ โดยเจนเนอเรชั่นที่สี่มาพร้อมกับ รูปทรงท่อแบบแอโรไดนามิก ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ควบคู่ไปกับ ค็อกพิท Canyon Engineered Parts (CEP) ที่เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อช่วยให้นักปั่นสามารถแหวกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ การเลือกใช้ การจัดเรียงคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาพิเศษ ที่เหนือกว่ายังช่วยให้มั่นใจได้ว่า Ultimate เจนเนอเรชั่นที่สี่ยังคงเป็นจักรยานแข่งที่แข็งแกร่ง คล่องแคล่ว และพร้อมที่จะนำนักปั่นไปสู่ชัยชนะ

หลังจากที่ Nairo Quintana ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์ Giro d’Italia ปี 2014 บน Ultimate เจนเนอเรชั่นที่สามแล้ว เขาก็ได้นำจักรยานรุ่นที่สี่ลงสนามทดสอบในการแข่งขัน Vuelta a España ปี 2016 และผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาคว้าชัยชนะมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงวิวัฒนาการที่ไม่หยุดยั้งและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศของ Canyon Ultimate

canyon-ultimate-niewiadoma-2019 ตลอดสี่ปีหลังจากนั้น Canyon ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนา Ultimate เจนเนอเรชั่นที่สี่อย่างต่อเนื่อง ในช่วงปลายปี 2016 Canyon ได้นำระบบ ดิสก์เบรก เข้าสู่รุ่น SL และ SLX ซึ่งเป็นการยกระดับการควบคุมและความมั่นใจในการเบรกให้กับนักปั่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน


ปี 2017 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญเมื่อ Canyon ได้เปิดตัว รุ่นสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งได้รับการออกแบบตามสรีระและความต้องการของนักปั่นหญิงอย่างแท้จริง และในที่สุด Kasia Niewiadoma ก็ได้นำจักรยานรุ่นนี้ไปสู่ชัยชนะอันน่าประทับใจในรายการ Amstel Gold ปี 
2019



ความสำเร็จในระดับโลกยังคงตามมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2018 Alejandro Valverde นักปั่นเก๋ามากประสบการณ์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข เมื่อเขาสวมเสื้อแชมป์โลกด้วยการคว้าชัยชนะบน Ultimate ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้แต่นักปั่นระดับตำนานก็ยังสามารถยกระดับฝีเท้าไปอีกขั้นได้ หากมีเครื่องมือที่เหมาะสม

ปี 2019 เป็นปีแห่งการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับ Ultimate เจนเนอเรชั่นที่สี่ ด้วยการเปิดตัว รุ่น EVO carbon layup ที่สร้างสรรค์จักรยานเสือหมอบดิสก์เบรกที่มีน้ำหนักต่ำกว่า กิโลกรัม อย่างน่าทึ่ง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในจักรยานที่ได้รับการรับรองจาก UCI ที่เบาที่สุดในตลาด นี่ถือเป็นการบุกเบิกดินแดนใหม่แห่งวิศวกรรมจักรยานสำหรับ Canyon

และแล้ว ความสำเร็จในรายการ Grand Tour อันทรงเกียรติก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อนักปั่นชาวโคลอมเบีย Richard Carapaz คว้าแชมป์ Giro d’Italia ด้วย Ultimate เจนเนอเรชั่นที่สี่ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสามารถรอบด้านและศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของจักรยานรุ่นนี้ ซึ่งทำให้เกิดคำถามที่ว่า มีอะไรอีกบ้างที่ Canyon Ultimate ทำไม่ได้?”

 

evolution-ultimate-fourth-gen

4th Generation Ultimate

Ultimate เจนเนอเรชั่นที่ 5: สู่ความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ

หลังจากทุ่มเทเวลาและทรัพยากรอย่างมหาศาลในการวิจัยและพัฒนา ในที่สุด Canyon ก็มาถึงจุดที่ต้องถามตัวเองว่าจะต่อยอดความสำเร็จของ Ultimate ไปสู่เจนเนอเรชั่นที่ห้าได้อย่างไร เป้าหมายที่ตั้งไว้คือการบรรลุ สมดุลที่สมบูรณ์แบบ ระหว่างน้ำหนัก ความแข็งแกร่ง หลักอากาศพลศาสตร์ และความทนทาน ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายขีดจำกัดของวิศวกรรมจักรยาน แต่ Canyon เชื่อมั่นว่ามันเป็นไปได้

จากความสำเร็จอันโดดเด่นของค็อกพิทแบบอินทรเกรตเต็มรูปแบบในรุ่น Aeroad Canyon ได้นำแนวคิดเดียวกันนี้มาติดตั้งใน Ultimate เจนเนอเรชั่นที่ห้า จากนั้น ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศพลศาสตร์อย่าง Swiss Side เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในอุโมงค์ลมให้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน เรายังคงรักษาความแข็งแกร่งต่อน้ำหนัก (Stiffness-to-Weight) อันเป็นเลิศไว้ได้ ด้วยการเลือกใช้การจัดเรียงคาร์บอนไฟเบอร์ระดับพรีเมียมในทุกรุ่นของ Ultimate นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มระยะห่างของตะเกียบและหางหลังให้กว้างขึ้น เพื่อรอบรับยางที่มีขนาดกว้างขึ้นทำให้สามารถรับมือกับสภาพถนนที่หลากหลายในการปั่นในชีวิตจริงได้อย่างสบาย นี่คือจักรยานที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการ

ไม่ใช่เพียงแค่เฟรมและส่วนประกอบเท่านั้นที่เต็มไปด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี Canyon ภาคภูมิใจในการเป็นผู้บุกเบิกด้านวิศวกรรม ซึ่งครอบคลุมไปถึงกลุ่มอุปกรณ์เสริมของ Canyon ด้วย ตัวอย่างเช่น ที่ยึด Computer จักรยาน แบบพิมพ์ 3 มิติ ชิ้นแรกของ Canyon ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 17 กรัม และรองรับทั้ง Garmin และ Wahoo มีจำหน่ายเฉพาะจาก Canyon เท่านั้น และได้รับการทดสอบบนเส้นทางหฤโหดใน Flanders และ Paris-Roubaix มาแล้ว

Canyon ได้สร้างจักรยานแห่งอนาคต เพื่อคว้าชัยชนะในการแข่งขันระดับโลกในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Tour de France, Tour de France Femmes avec Zwift, Vuelta a España และอีกมากมายที่จะตามมา

ff6bd153-043a-4d4a-93df-f330c8a1fbd4

5th Generation Ultimate

 

w1200_h1800_x1382_y1685_IMG_0072-5fd9efe45b6db8c2 Lukas Birr หัวหน้าวิศวกรผู้อยู่เบื้องหลัง Ultimate เจนเนอเรชั่นที่ห้า ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับจักรยานคันนี้มานานถึงสามปี และเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นมันอยู่ในมือของนักปั่นทั่วโลก "การได้เห็นประกายในดวงตานักปั่นทดสอบเมื่อพูดถึงการปั่นครั้งแรก การได้ยินความคิดเห็นจากนักปั่นอาชีพเกี่ยวกับความชื่นชอบในจักรยาน การได้สัมผัสถึงอิสระและความสนุกสนานของตัวเองเมื่อพิชิตเนินเขาอีกแห่งหนึ่งภายใต้แสงแดดอ่อนๆ ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ความปวดหัวทั้งหมด คำสบถทั้งหมดเกี่ยวกับเฟรมต้นแบบที่หัก การประชุมและการเจรจาที่ไม่สิ้นสุด ทั้งหมดนั้นถูกลืมไปหมด" เขากล่าวด้วยความภาคภูมิใจเกี่ยวกับ Ultimate ที่มีความสมดุลอย่างสมบูรณ์แบบ  

และเมื่อพูดถึงมรดกอันน่าทึ่งของ Ultimate และวิธีที่รุ่นล่าสุดนี้จะเข้ามาเสริมสร้างประวัติศาสตร์ของจักรยาน Lukas Birr กล่าวว่า "มันคือรอยยิ้มในทันทีที่คุณขยับจักรยานไปสองสามเมตรแรก จักรยานแข่งอเนกประสงค์ที่พร้อมสำหรับทุกเส้นทางที่คุณจะเจอ เพื่อนร่วมทางที่สง่างามที่ดึงดูดสายตาด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ Ultimate เป็นจักรยานคันเดียวที่คุณจะพบว่าตัวเองอยากเป็นเจ้าของ"

 

 

เเท็กที่เกี่ยวข้อง